วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week2 เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ(1) [ นับ1 2 3 บางกอกสู่ออส-สะ-เต-เรีย ]


นับ1 2 3บางกอกสู่ออส-สะ-เต-เรีย 

a part of my memory from AUSTRALIA



  • การเดินทางวันแรก

            ปิดเทอมได้2วันก็ถึงวันเดินทาง แต่โดนเปลี่ยนไฟล์ทบินตั้งแต่เช้า จากสายการบินผมทองสู่สายการบินแห่งชาติ แต่ไม่ว่าเหตุผลใดๆก็ตาม เย้!จะได้บินตรง ได้ทานอาหารไทย ได้ดูหนังที่เป็นภาษาไทย ไม่ต้องสปีคอิงลิชเวลาสั่งอาหารหรือต้องถามอะไร ด้วยความตื่นเต้นเลยถึงสนามบินมาก่อนเวลาไปเกือบ5ชั่วโมง(เพื่ออะไรกันนะพี่ชาย?) เช็คอินเรียบร้อยเดินช้อปปิ้ง(ที่จริงแล้วคือมองของไปเรื่อยๆ)รอเวลาขึ้นเครื่อง

            และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง แต่แล้วรันเวย์มีปัญหาต้องนั่งรถบัสออกไปก่อนเพื่อไปขึ้นเครื่อง แต่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่เหมือนกันที่ได้นั่งรถบัสชมสนามบินในเวลาห้าทุ่มกว่า จนได้นั่งบนเครื่องแล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้น เหมือนจะได้ก้าวเท้าออกจากกรุงเทพจริงๆแล้วหลักจากที่รอมาเนิ่นนาน ด้วยความที่ง่วงมากแต่ก็อยากดูหนังมากเก็บกดจากเปิดเทอมมานานก็ทนดูต่อไป จนถึงเวลาอาหารจึงได้ลิ้มรสพาสต้าที่อืมจืดจังแต่เวลานั่งเครื่องการรับรสจะลดลงดังนั้นทานต่อไป!  ได้เวลานอนก็ได้แบบนอนหลับๆตื่นๆเพราะเครื่องบินสั่น กัปตันสั่งให้รัดเข็มขัดเป็นระยะๆ จนเครื่องลงจอดโดยสวัสดิภาพรอดแล้วเราถึงแล้วออสเตรเลีย เอ้โย่วไมค์! ถึงด่านก็ตรวจพาสสปอร์ตแอบกังวลเล็กๆเพราะขอวีซ่าออนไลน์แต่ก็ผ่านพ้นมาด้วยดี เข้าประเทศจริงๆแล้วสินะ 

....สวัสดีออสเตรเลียกับ8ชั่วโมงที่เดินทางมาและเวลา3ชั่วโมงที่เร็วกว่า




  • Hello Australia

             หัวทองเต็มไปหมด เห็นป้ากับลุงอยู่ไกลๆ ซึ่งข้อดีของการเป็นคนเอเชียในท่ามกลางฝรั่งคือหากันง่ายดี วันแรกจากสนามบินบริสเบนกลับไปสู่Toowoombaเมืองที่ไม่เล็กไม่ใหญ่แต่สงบและอากาศดีมาก วันแรกก็ต้องเข้าซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของต่างๆ ได้เจอกับฝรั่งคนหนึ่งที่รับอุปการะเด็กคนไทยคนหนึ่งจากเชียงใหม่ ซึ่งเธอพูดภาษาไทยไม่ได้เพราะมาอยู่ตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลกที่ดีที่ได้พบกัน ช็อปเสร็จก็ได้เวลากลับบ้าน บ้านของลุงกับป้าที่มีชื่อว่าลีลาวดี เฮาท์ บ้านที่ไม่ต้องพึ่งไฟฟ้าและน้ำจากภาครัฐ บ้านหลังที่มีทั้งโซลาร์เซลล์ กังหันลม เครื่องปั่นไฟ และที่เก็บน้ำเข้าคอนเซ็ปต์เศรษฐกิจพอเพียงสุดๆ


  • Let's go to the camp!

          อยู่บ้านไม่กี่วันก็ได้ไปแคมป์!เราไปกันโดยรถยนตร์ที่พ่วงคาราแวนไว้ด้านหลัง ที่นี่จะนิยมคาราแวนมากๆโดยเป็นเสมือนบ้านหลังหนึ่งเวลาไปเที่ยวโดยจะพ่วงกับท้ายรถตัวเองแล้วลากไป หรือหากเป็นรถที่อยู่ด้วยกันกับบ้านเลยจะเรียกว่ามอเตอร์โฮม โดยไปแคมป์ครั้งนี้เราไปที่Sundown National Parkโดยเอาคาราแวนไปด้วยแต่มันพิเศษตรงลุงสร้างเอง เป็นคาราแวนขนาดเล็ก2x2เมตร ข้างในมีเตียง2ชั้น ห้องครัวเล็กๆ และตู้เสื้อผ้า ทางไปนั้นยากลำบากเหลือเกิน แต่มาถึงแล้วก็รู้สึกว่าการจะได้สิ่งดีๆมาถ้าไม่พยายามก็จะเอื้อมไม่ถึงมัน เหมือนอยู่ในภาพยนตร์ทไวไลท์ หรือฮังเกอร์เกมส์ ฟีลลิ่งได้มากๆ แต่น้ำในร่างกายไม่เคยปราณีใคร ห้องน้ำโอเคอยู่ไม่ไกลแต่!พอเข้าไปถึงเห้ยมันเป็นส้วมหลุม โอโหธรรมชาติไปไหน กลับมาเข้าห้องน้ำที่ไปเอาไว้สำหรับไปแคมป์ก็ได้

          ตอนกลางคืนมีอีกัวน่าหรือตัวเงินตัวทองที่หลายๆคนชอบใช้เรียกแทนชื่อกันเดินผ่านแคมป์ด้วยแต่มันก็ผ่านไปด้วยดี

          จนถึงวันที่สองก็ต้องออกไปเดินสักหน่อย เราเดินในอุทยานประมาณ1กิโลเมตรจึงได้หยุดและตกปลา ตกปลาครั้งแรกในชีวิตและตกไม่ได้ครั้งแรกในชีวิต และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีครั้งไหนที่ตกปลาได้ กลับมามือเปล่าแต่กำขี้ยังดีกว่ากำตดอย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์

         เรากลับมาที่แคมป์เพื่อพักผ่อนและอ่านหนังสือเพลินๆก็ได้มีสัตว์ที่ยังบ่งบอกประเภทไม่ได้ขึ้นมาตามตัว เอ๊ะนี่มันคือตัวอะไร ลุงไม่รอช้าจึงขับรถไปหาเจ้าหน้าที่แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่อยู่ แต่อย่ากังวลไปกูเกิ้ลช่วยได้แต่ต้องออกไปหาสัญญาณเน็ตข้่างนอกโถ่ว เราได้ทำการวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล และพบว่ามันคือลูกของTickหรือเห็บในบ้านเรานั่นเอง และเราก็ไม่รอช้าที่จะเผ่นกลับบ้านอย่างรวดเร็ว  2-3วันผ่านไปเจ้าTickที่ดูไร้พิษสงตอนเด็กโตไวเหมือนโกหกอาการคันเริ่มมา แต่พอดูใกล้ๆแล้วเห็นมันในผิวหนังกำลังดูดเลือดรู้สึกเหมือนร่างกายโดนแวมไพร์มดูดเลือด ซึ่งถึงจะเอาออกแล้วมันก็ยังฝากรอยแผลไว้เต็มT_T






  • Toowoomba Show

          เป็นเหมือนงานจัดแสดงผลผลิตทางเกษตรกรรม ผลงานทางหัตถกรรม จิตรกรรม ภาพถ่าย และผลงานอื่นๆ อีกทั้งรวมนานาสัตว์มาประกวดกันไม่ว่าจะเป็นม้า วัว สุนัข เป็ด ไก่ นก อัลปาก้า ทำให้ได้พบม้าตัวหนึ่งในชุดสีชมพูซึ่งชื่อจำไม่ได้เพราะออกเสียงยากมาก เจ้าของม้าน่ารักมากๆคุยดีและเป็นมิตรมาก จึงได้โอกาสครั้งแรกที่จะได้เล่นกับม้าในชุดสีชมพูซึ่งเจ้าของอธิบายว่าชุดนี้จะเหมือนเป็นชุดที่ช่วยนวดให้ม้าทำให้ม้ารู้สึกผ่อนคลายตอนนั้นคิดว่าเป็นอะไรที่เก๋มากๆ ซึ่งพอเราได้บอกว่ามาจากประเทศไทยเขาเองก็ได้เล่าว่าพ่อเขานั้นเคยเป็นทหารที่เคยมาช่วยในประเทศไทย ครอบครัวเขาทำอาหารไทยเป็นและชอบอาหารไทย ส่วนอื่นๆในงานมีการแสดง มีเครื่องเล่น มีบูธต่างๆมาร่วมออกงาน รวมแล้วเหมือนงานกาชาด+งานวัด+สวนสนุก+สวนสัตว์ซึ่งงานนี้จะจัดวนไปตามแต่ละเมือง ซึ่งการจัดแบบนี้ก็เหมือนทำให้เราได้รู้จักเมืองๆนั้นมากขึ้นอีกด้วย




 
 


 

  • บีบนมวัวครั้งแรก

          นั่งรถกินลมชมวิวกำลังเพลิน กึก ลุงจอดรถพร้อมชวนลงไปดูฟาร์มนมวัว เดินลงไปอย่างงงๆมาทำไมที่นี่ สิ่งแรกที่เห็นคือหืออออุจจาระน้องวัวเต็มพื้นเลย ลุงคุยกับเจ้าของฟาร์มอยู่สักพักก็เรียกให้ไปบีบนมวัว อะไรนะบีบนมวัว บีบนมวัว มอมอมอ ในใจแอบกลัวโดนเตะ แต่พอไปนั่งเพื่อจะบีบนมวัวเท่านั้นน้องวัวก็ดิ้น และสุดท้ายฉี่! ฉี่อย่างมหึมาอย่างกับท่อน้ำแตก รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม่ทันคิดในใจว่าไม่เอาแล้วไม่อยากทำแล้วจะกลับแล้ว แต่ก็มิวายต้องกลับไปบีบอีกรอบ เพราะลุงบอกว่ามันเป็นgood opportunity มันgoodจริงๆใช่ไหมคะเนี่ย แต่สุดท้ายก็Well done lamb steak!ความรู้สึกที่บีบนมได้แล้วรู้สึกฟิน มันเหมือนทำภารกิจสำเร็จ ทั้งๆที่มันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหลายๆคน แต่สำหรับเรามันเป็นอะไรที่ใหม่มากๆและจะจำฉี่น้องวัวไปอีกนาน




  • ชุดอวกาศกับการไปBee's House
          ผึ้งเป็นแมลงตัวเล็กที่เหมือนมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ถึงได้กลัวตลอดเวลาที่ได้พบเจอ แต่เพราะมันเป็นgood opportunityที่อาจจะเป็นครั้งเดียวดังนั้นมันต้องลอง!! ชุดอวกาศกับการไปหาน้องผึ้ง ที่บ้านของลุงเลี้ยงผึ้งไว้โดยมีกล่องไม้ที่ใส่เฟรมไว้ข้างในเพื่อเก็บน้ำผึ้ง   ซึ่งกว่าผึ้งจะได้น้ำผึ้งมา1ช้อนชานั้นมันต้องบินไปกลับหลายรอบโดยแต่ละเฟรมที่เก็บนั้นหนักถึงเกือบ10กิโลกรัมเลยทีเดียวจึงใช้เวลานานเช่นกันในการจะเอาน้ำผึ้งแต่ละรอบ 
          โดยการเอาน้ำผึ้งนั้นเริ่มจากต้องใช้ควันไปล่อให้ผึ้งออกไปจากรังของมันและค่อยๆเอาเฟรมออกมาทีละชั้น การทำงานประสบผลสำเร็จพร้อมของแถมเป็นหมัดรักจากน้องผึ้ง1หมัด แต่ก่อนผึ้งต่อยเป็นอะไรที่อยากรู้มากๆว่าจะเป็นอย่างไรเจ็บแค่ไหนแต่จะให้ไปยืนอยู่ดีๆให้ผึ้งมาต่อยก็คงไม่ใช่เรื่องแต่ในที่สุดก็ได้สัมผัสความเจ็บปวดของการโดนผึ้งต่อยถือว่ายังระดับปานกลางแต่ขอครั้งเดียวเป็นประสบการณ์ก็เพียงพอแล้ว ต่อจากเก็บน้ำผึ้งก็เป็นขั้นตอนของการแยกน้ำผึ้งออกจากเฟรม โดยที่เฟรมนั้นจะมีแว๊กซ์อยู่ เราต้องแยกน้ำผึ้งจากแว๊กซ์ซึ่งใช้เวลาหลายวันอยู่เหมือนกันกว่าจะได้น้ำผึ้งมา1ถัง น้ำผึ้งที่ผลิตจากบ้านของผึ้งจริงๆ


  •  ร่างกายต้องการทะเล
          สิ่งหนึ่งเมื่อเราเห็นทะเลแล้วเราจะลืมมันไปนั่นคือขีดจำกัด ทะเลกว้างใหญ่จนเรารู้สึกว่าตัวเราเองเล็กเท่าเม็ดทรายยิ่งปํญหาของเราก็ยิ่งเล็กเข้าไปใหญ่ NoosaในSunshine Coastเป็นทะเลอีกหนึ่งที่ที่ทำให้ตัวของเรารู้สึกตัวเราเล็กลงไปอีก เราได้ไปที่Noosa National Parkซึ่งเดินไกลพอสมควรเหมือนเดินข้ามเกาะไปสามสี่ลูกระหว่างเดินวิวข้างๆก็เป็นวิวทะเลมีจุดต่างๆให้ได้ชม ระหว่างทางมองไปมีคนมาเล่นเซิร์ฟบอร์ดเยอะพอสมควร จนเราได้เดินมาสู่ที่หมายจุดชมปลาโลมามาซึ่งเราก็มาได้ตรงเวลากับปลาโลมาจริงๆ ได้เห็นปลาโลมาอยู่ในทะเลจริงๆรู้สึกปริ่มมากเคยเห็นแต่ปลาโลมาอยู่ในสวนสัตว์กับทีวี นี่สินะทะเลแปซิฟิกที่เดินมาตั้งไกลคุ้มจริงๆ เราเดินกลับในเส้นทางเดิมกว่าจะถึงก็เล่นเอาหมดแรงเหมือนกัน และแล้วก็ถึงเวลาเล่นน้ำที่Noosa Main Beach ในความรู้สึกคิดว่าน้ำทะเลที่นี่ไม่ค่อยเหนียวตัวแล้วก็ไม่เค็มมากด้วย ฮ่าๆๆ 





  • กลับแล้วบ้ายบายออสซี่
           อยู่มา10อาทิตย์ตอนกลับใจหายนิดๆ ขากลับได้กลับได้กลับสายการบินQantasจริงๆจังๆสักที เริ่มจากขึ้นเครื่องภายในประเทศจากบริสเบนไปซิดนีย์มีอาหารเช้าเป็นซีเรียลให้ทาน คนเต็มเครื่องดูการ์ตูนได้1เรื่องก็ถึงพอดี มาถึงซิดนีย์ก็ต้องต่อรถบัสเพื่อไปสนามบินระหว่างประเทศได้นั่งรสบัสในสนามบินอีกแล้วชอบ เดินในสนามบินได้ไม่นานก็ต้องรีบไปขึ้นเครื่อง ขึ้นเครื่องไปได้ไม่นานก็มองไปรอบๆพบว่า โหหหมีแต่สจ๊วตทั้งนั้นเลย แอร์ผู้หญิงไม่มีสักคน แต่พี่สจ๊วตน่ารักมากพูดภาษาไทยได้ด้วย เขาบอกว่าชอบอาหารไทยมากโดยเฉพาะแกงเขียวหวานกับผัดไท และก็ชอบน้ำสับปะรดปั่นมากๆเช่นกัน บนเครื่องรอบนี้สภาพอากาศภายนอกแจ่มใสไร้กังวล แต่ครั้งนี้หนังมีแต่ภาษาอังกฤษยากแก่การเข้าใจยิ่งนัก ตัดปัญหาโดยการดูการ์ตูนอย่างน้อยก็ยังเดาได้มากกว่า ฮ่าๆๆ กลับมาถึงสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย พร้อมกับอากาศประเทศไทยที่ร้อนอย่างกับเป็นเตาอบ

  • เรื่องเล็กๆจากแดนจิงโจ้
-อยู่ที่นี่ต้องเป็นเด็กปั๊มเองนะ
-เราสามารถทักทายคนที่เราไม่รู้จัก หรืออาจจะเป็นเพื่อนว่า Good day แต่จะออกเสียงว่าG' day กิเดย์ กิดาย ก็สุดแล้วแต่สำเนียง
-คำว่าTa ท่า แปลว่าขอบคุณ สามารถใช้กับเพื่อนได้
-สำเนียงออสซี่บางทีฟังยากมาก
-เวลาเข้าห้องน้ำเห็นฝาชักโครกปิดไม่ต้องตกใจไม่ได้มีก้อนทองลอยอยู่แต่จะปิดฝาเพื่อไม่ให้มีกลิ่น
-อาหารที่พบเจอได้ทั่วไปคือFish and ship
-หากขับรถอยู่นอกเมืองอาจเจอจิงโจ้ตัดหน้าได้
-ถ้าอยู่ในกลุ่มแล้วเป็นคนชาติเดียวกันแต่มีฝรั่งนั่งอยู่ด้วย ควรพูดภาษาอังกฤษเพื่อไม่เป็นเสียมารยาท 
-ชื่อเมืองหลายๆเมืองมาจากภาษาอะบอริจิน
-ไม่นิยมรถยนต์สีเงินเพราะอันตรายหากมีหมอก



วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2558

Week9 เรื่องราวที่นักเรียนสนใจ(3) กาลครั้งหนึ่งถึงปัจจุบันเมื่อ I am a ติ่ง




  เป็นคนธรรมดาดีๆไม่ชอบต้องกลายมาเป็น “มนุษย์ติ่งหน้าจอ” บุคคลผู้เป็นติ่งที่จงรักภักดีแต่สัมผัสได้เพียงหน้าจอ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนคนนั้นก็คือเจ้าบล็อกนี้นี่เอง ขออนุญาตแทนตัวเองว่า เรา นะคะ  เราคือมนุษย์ติ่งที่ใช้เวลาติ่งส่วนมากผ่านหน้าจอคอมเพราะไม่ได้มีโอกาสไปติ่งตามงานอีเวนท์ หรือไปตามที่ต่างๆอะไรทำนองนั้น ดังนั้น หน้าจอคอมและหน้าจอมือถือเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการติ่ง และบุคคลผู้ที่เราติดตามมาจะ4ปีแล้วนั่นก็คือ

                                 แท้แด......แกงส้ม ธนทัต ชัยอรรถ












  ขอข้ามในส่วนประวัติไปนะคะเพราะหาในอากู๋ได้ค่ะมีเยอะแยะเลย เพราะที่จะมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ก็คือประสบการณ์ติ่ง ประสบการณ์เจอศิลปินอันน้อยนิดของติ่งหน้าจอT_T 

   ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนนั้นเราอยู่ประมาณ ม.3 ตลอดระยะเวลาตอนนั้นคือส่องแต่หน้าจอ ไม่ได้มีโอกาสไปเจอตัวจริงๆเลย ช่วงนั้นเป็นช่วงที่คลั่งมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก พูดอะไรๆกับเพื่อนนี่คือต้องเป็นแกงส้ม จนบางทีก็สงสารเพื่อน



  ปิดเทอมขึ้นม.4 ในที่สุดโชคชะตาก็พาเรามาพบกันแต่ดันเป็นซินเดอเรล่าไปหน่อยรองเท้าขาด แงงงงงงงง ต้องแวะซื้อรองเท้าก่อนไปงานกว่าจะไปถึงงานก็เลิกพอดี โถ่วชีวิตอะไรจะรันทดอย่างนั้น แต่สุดท้ายอย่างน้อยเราก็ยังทันในช่วงสัมภาษณ์ ตอนเจอครั้งแรกเป็นอะไรที่แบบคิดในใจว่า “เห้ยยยยยยยยย คนนี้นะ คนนี้ที่เราติดตามมา วันนี้เขาอยู่ข้างหน้าเราแล้วนะ” ปริ่มค่ะ ติ่งพูดได้เลยว่าปริ่ม แต่การไปติ่งตามงานมันไม่ใช่ว่าเราไปแล้วจะเจออย่างใกล้ชิด เราต้องฝ่าฟันผู้คนตั้งหลายต่อหลายคนเพื่อเจอกับคนหนึ่งคน



  และของขวัญวันเกิดในปีนั้นก็คือแม่พาไปติ่ง คราวนี้ไปนั่งรอเลยไม่เจอให้รู้ไป และในที่สุดก็เจอกันเป็นครั้งที่2 เย้ แล้วก็มีลุงข้างๆพูดขึ้นมาว่า“ไหนใครมา แกงส้มอะเหรอ ไม่เห็นจะหล่อเลย” คิดในใจว่า “อ่าวลุงพูดงี้ต่อยกันป่าว” แต่นั่นแหละค่ะก็แค่คิดในใจฮี่ๆ เจอแกงส้มครั้งนี้ก็ฟินแม้จะได้มองอย่างห่างๆแต่เธอยังอยู่ในสายตาเสมอ 

  ครั้งที่3ของการติ่งนั่นคือครั้งที่คิดว่าใกล้ชิดที่สุดแล้ว เพราะได้ไปกิจกรรมตามรอยMVคุณและคุณเท่านั้น ความฝันของติ่งได้บรรลุแล้วในที่สุดก็ได้มีรูปคู่อร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก จริงๆมันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่จะตื่นเต้นสำหรับใครหลายๆคนแต่สำหรับเราที่ไม่ค่อยได้เจอคือแบบมันมีค่าจริงๆนะ 



  การติ่งไม่ใช่จะมีแต่ภาพที่เรากำลังกรี๊ดผู้ชายนะคะคุณๆขา สาระก็มี(แม้จะน้อยนิด) แต่ก็นั่นล่ะสำหรับเรามันไม่นิดเพราะเธอคือแรงบันดาลใจ เมื่อรู้ว่าแกงส้มได้เป็นพรีเซนเตอร์ โครงการ Singha Discover 500 Galapagos ก็ไม่รอช้าที่จะดูรายละเอียดว่ามันเป็นยังไง ซึ่งนั่นก็คือต้องทำคลิปส่งในหัวข้อ“แค่คุณเปิดโลกก็เปลี่ยน” ถ้าได้คือได้ไปกาลาปากอสกับแกงส้มเลยนะแม่เจ้าโว้ย ทำไงดีตัดต่อก็ไม่เป็น กล้องก็มีแต่กล้องมือถือ ในเมื่อทรัพยากรไม่เอื้อก็ต้องใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด แหม่พลังแห่งรักนี่มันมหาศาลจริงๆ จนสุดท้ายที่เราได้ทำคลิปออกมาตอนนั้นคิดว่ามันใช่อะ การเริ่มทำคลิปครั้งนี้มันเป็นแรงบันดาลในใจให้เราอยากเรียนนิเทศศาสตร์จริงๆจังๆ ถึงแม้ตอนนั้นจะทำคลิปออกมาได้กากๆแต่เราชอบมันนะ มันเหมือนเป็นผลงานแรก เป็นสิ่งที่เราชอบทำแล้วไม่เบื่อเลยทำได้โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันเป็นภาระแล้วก็สนุกไปกับมันด้วย แต่นั่นแหละเพราะมันเป็นงานแรกความหวังที่มีก็ช่างริบหรี่นัก แต่แล้วก็กรี๊ดดดดดดดด แม่หนูผ่านเป็น100คู่ด้วย ต้องไปทดสอบบลาๆๆ ตอนนั้นคือดีใจมากแต่ความดีใจก็ไม่ได้อยู่ตลอดไปเพราะสุดท้ายก็ไม่ได้ไปกาลาปากอส เสียใจเบาๆ แต่ครั้งนี้ถือว่าคุ้มมาๆกับประสบการณ์ที่ได้ และกับความฝันครั้งใหม่ว่าชีวิตอยากจะทำอะไร




  เวลาผ่านมาเนิ่นนานงานเยอะมากไม่ได้ไปติ่งเลยไม่ได้เจอแกงเลยโฮฮฮ แต่แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้น เมื่อเพื่อนผู้มีอุปการคุณให้บัตรคอนเสิร์ต 7 Wonders มา ทั้งๆที่ตอนแรกตัดใจแล้วว่าคงไม่ได้ไปเพราะแม่ไม่ให้ไป แต่ในที่สุดความรักก็นำเรามาสู่อิมแพคอารีน่า คอนเสิร์ตครั้งแรกเลยปริ่มจุง(ปกติคือนอนอยู่บ้านรอซื้อแผ่น) 2ปีที่ผ่านมาที่ไม่ได้เจอแกงเลยไม่ได้ตามเลย มันเหมือนความรู้สึกทุกๆอย่างมันกลับมา ความรักพลั่งพรูมาก ณ จุดๆนั้นคือหยุดเวลาไว้ได้ไหมไม่รู้จะได้เจอแกงอีกตอนไหนเพราะปีนี้ก็ต้องสอบเข้ามหาลัยแล้ว ฮืออออีกแค่ปีเดียวก็จะไม่ต้องเป็นติ่งหน้าจอแล้ว ไว้เจอกันใหม่นะแกงส้ม ♥




  สุดท้ายนี้หลายๆคนอาจจะมีสิ่งที่ชอบไม่เหมือนกัน บางคนชอบดาราคนนู้น บางคนชอบการ์ตูนตัวนั้น ชอบเกม ชอบสะสมรถ ชอบสะสมของเล่น แต่ละคนมีความชอบต่างกัน เราเองก็เป็นคนนึงที่ชอบศิลปินคนนึงและอยากจะเล่าเรื่องของเราบ้างอาจจะดูไม่มีสาระแต่ก็เพราะสิ่งไม่มีสาระก็เป็นได้ที่ทำให้คนเรามีความสุข


ขอขอบคุณภาพจาก 

IG: kangsomks     < ไป Follow กันได้นะคะคุณผู้ชมขอบอกว่าแฟชั่นแกงส้มล้ำโลกมาก

https://instagram.com/p/3dO07aLP-s/

https://instagram.com/p/zwLo_gLP9x/

https://instagram.com/p/x_Pa4XrP7H/

https://instagram.com/p/4M0rAwLPyB/

https://instagram.com/p/5BowpFrP_2/






Week8 Review/แนะนำการใช้งาน1โปรแกรม [ iBooks and I ]


iBooks

                สวัสดีค่ะกลับมาพบกันอีกครั้ง กลับมาในวันนี้ขอนำเสนอแอพลิเคชั่นจากแอปเปิ้ลที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว นั่นก็คือ iBooks ซึ่งเป็นเหมือนชั้นหนังสือหรือห้องสมุดย่อมๆของเราเลย





                โดยเมื่อเปิดหน้าแอพลิเคชั่นขึ้นมาก็จะมีหน้าตาเป็นแบบนี้




                หรือจะเลือกเป็นหน้าแบบนี้ก็ได้ตามที่สะดวกเลยจ้า




                โดยเลือกตรงแถบบนด้านซ้าย ที่มีสัญลักษณ์ดังนี้




หรือ


                มีชั้นหนังสือแล้วก็ต้องโหลดหนังสือโลดดด!!! follow me มาเลยฮ้าบ โดยกดเลือกไปที่ Featured บริเวณแถบด้านล่าง




                จะมีหนังสือขึ้นมาแนะนำให้เราโหลด เราสามารถดูรายละเอียดและเลือกดาวน์โหลดได้




                หรือจะขยับมาหน่อยที่ Top Charts หนังสือที่ผู้คนโหลดติดอันดับว่ามีเล่มไหนน่าสนใจบ้าง



                หรือจะเลือกดูแบบTop Authors ว่านักเขียนที่ติดอันดับว่ามีใครโดนๆบ้าง




                ขยับไปอีกที่ Search ที่มีสัญลักษณ์เป็นแว่นขยายแบบนี้ เมื่อเข้าไปที่ Search ก็จะมีเทรนด์หนังสือที่ผู้คนหามากที่สุดอยู่หากสนใจก็กดเข้าไปดูได้



                หรือจะหาหนังสือที่ชอบก็สามารถพิมพ์ที่ช่องค้นหาได้


                กดที่หนังสือเพื่อดูรายละเอียดก่อนหรือจะกด GET เพื่อโหลดหนังสือเลยก็ได้ เมื่อเข้ามาดูรายละเอียดของหนังสือเราสามารถดูรีวิว หรือหนังสือที่เกี่ยวข้องด้วยก็ได้ ถ้าต้องการโหลดก็สามารถกด GET ได้เลย แต่หากต้องการดูตัวอย่างภายในหนังสือก็สามารถกด SAMPLE ก่อนได้


         

                เมื่อโหลดแบบ SAMPLE มาก็จะได้หนังสือตัวอย่างมา1 เล่ม ซึ่งเราสามารถอ่านดูคร่าวๆดูก่อนได้ว่าหนังสือเล่มนี้มีเนื้อหาประมาณไหน เราชอบหรือไม่ หากชอบก็สามารถกด BUY ในหน้าต่างๆ และGET ในหน้าสุดท้ายเพื่อโหลดหนังสือได้



              

                เมื่อโหลดหนังสือแล้วเราก็จะมีหนังสือใหม่เพิ่มมาที่ชั้น 1 เล่มแบบนี้




                เมื่อกดเข้าไปอ่านเราสามารถปรับตัวหนังสือ แสงสว่าง สีพื้นหลัง ฟ้อนต์ หรือทิศทางการเลื่อนหนังสือ ให้กลายเป็นแบบที่ต้องการและเหมาะกับเราได้


         
                เมื่อเราอ่านหนังสือเราสามารถไฮไลท์ส่วนสำคัญหรือคั่นหน้าที่เราอ่านค้างไว้ได้ โดยกดที่คั่นตรงแถบด้านบนขวามือ ก็จะสามารถคั่นหนังสือได้อย่างสะดวก



                และหากประโยคไหนโดนใจหรือสำคัญก็สามารถไฮไลท์ไว้ได้




                เราสามารถหาหน้าที่เราคั่นหรือไฮไลท์ไว้ได้จาก แถบด้านซ้ายมือที่มีหน้าตาแบบนี้
             

                เข้ามาแล้วก็มีโฉมหน้าเป็นแบบนี้ เมื่อกดเข้าไปตรง Contents ก็จะเป็นสารบัญแสดงเลขหน้าของบทต่างๆ



                 ถัดมาที่ Bookmarks ก็จะเป็นหนังสือหน้าที่เราคั่นไว้



                และต่อมาที่ Notes ก็จะมีส่วนที่เราไฮไลท์ไว้ปรากฏอยู่



                หากไม่ได้คั่นหนังสือหรือไฮไลท์ไว้ไม่ต้องเปิดหาทีละหน้าให้เสียเวลา เพียงจำ Keyword หรือประโยคในหน้าที่ต้องการได้สัก 1 ประโยคก็สามารถหาหน้านั้นได้ โดยเข้าไปที่สัญลักษณ์แว่นขยายบนแถบบนขวามือ



                เมื่อเข้ามาแล้วก็สามารถพิมพ์ประโยคหรือคำที่พอจำได้เพื่อหาหน้าที่ต้องการ



                เมื่ออ่านจบแล้วหน้าสุดท้ายของหนังสือจะมีให้เรารีวิวและให้คะแนนหนังสือ เราก็สามารถทำได้



               จบไปแล้วในส่วนของหนังสือ แต่เรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ เราสามารถเลือกเป็นไฟล์ .pdf มาอ่านได้อีกเพียงเลือกตรงด้านบนว่าจะให้เป็น Books หรือเป็น PDF



                โดยเมื่อกดเข้าไปเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการอ่านอะไร

                เมื่อเลือก PDFs แล้วก็จะเป็นแบบนี้




                ซึ่งเราสามารถโหลด PDF มาเปิดในนี้ได้ โดยเมื่อเปิดเอกสาร PDF จะขึ้น Open in "iBooks" ก็กดแล้วเอกสารก็จะเปิดใน iBooks



                เมื่อเปิดเอกสารใน iBooks ก็มีหน้าตาแบบนี้ ซึ่งเราสามารถปรับสิ่งต่างๆได้คล้ายๆกับในหนังสือแต่อาจจะน้อยกว่าแต่ก็ถือว่าสะดวกมากๆ

                              ถือว่าเป็นอีกแอพลิเคชั่นดีๆที่ไอโฟน ไอแพด ไอพอด หรือไอต่างๆคู่ควร แต่ตอนนี้เริ่มจะไอเลิฟยูแล้ว เอาเป็นว่ามีติดเครื่องกันอยู่แล้วก็ใช้ให้เกิดประโยชน์นะคะ เป็นแอพลิเคชั่นที่สะดวกมากๆ ช่วยได้ดีเวลาสอบอีกด้วยที่เราต้องโหลดเอกสารมากมายแต่ iBooks ก็ทำให้ง่ายต่อการอ่านมากๆ
สำหรับวันนี้ลากันไปก่อน สัปดาห์หน้าจะมีเรื่องอะไรมาอัปเดตให้ฟังต้องรอติดตาม





ขอขอบคุณรูปภาพจาก

http://boardex.com/ibooks-author-is-the-best-and-most-fun-way-to-publish/
https://itunes.apple.com/th/app/ibooks/id364709193?mt=8